ข้อมูล

                                   ข้อมูลทั่วไปจังหวัดระยอง


ระยอง....เป็นจังหวัดขนาดเล็กแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศ เป็นที่รู้จักในปัจจุบันว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีผลไม้ชั้นยอด เป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศ  มีสภาพเศรษฐกิจดี มีรายได้ต่อหัวประชากรสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ  คือ 1,143,740  บาท/ คน  ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) เท่ากับ672,104  ล้านบาท  ซึ่งมาจากสาขาการผลิตด้านอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ กว่าร้อยละ  92
                แต่เดิมจังหวัดระยองเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองผลไม้ดีของภาคตะวันออ  ไม่ว่าจะเป็นมังคุด ทุเรียน เงาะ รวมทั้งอาหารทะเลสด แปรรูป กะปิ น้ำปลา เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศที่เอื้ออำนวย และสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสม   นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม  มีชายหาดยาวสวยเลียบขนานไปกับอ่าวไทย  และเกาะสวยงามระดับโลก เช่น เกาะเสม็ดที่รู้จักกันแพร่หลายท่ามกลางนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด  คือ ภาคเกษตรกรรม การท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม (ข้อมูลสรุปจังหวัดระยอง ปี 2553)
                จังหวัดระยองเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเป็นจังหวัดอุตสาหกรรม  นับตั้งแต่ค้นพบก๊าซธรรมชาติ ในอ่าวไทยเมื่อปี  พ.. 2520 เป็นการเริ่มต้นยุค โชติช่วงชัชวาล และเป็นที่มาของ โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ( Eastern Seaboard Development Program ) ในปี 2524 ช่วงระยะเวลาเกือบ  30 ปี ทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจของจังหวัดระยองเปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมนำการท่องเที่ยวและเกษตรกรรม 
ต้นไม้ประจำจังหวัด               
ต้นประดู่

        
       ดอกไม้ประจำจังหวัด      
ดอกประดู่
ขนาดและที่ตั้ง
จังหวัดระยองมีพื้นที่ประมาณ 3,552 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,220,000 ไร่ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทยระหว่างเส้นรุ้งที่ 12-13 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 101-102 องศาตะวันออก ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 179 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
ทิศเหนือ              ติดต่อกับเขตอำเภอหนองใหญ่ อำเภอบ่อทอง และอำเภอศรีราชาของจังหวัดชลบุรี
ทิศใต้                จดทะเลอ่าวไทย พื้นที่ฝั่งทะเลยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ของอ่าวไทย
ทิศตะวันออก     ติดต่อกับเขตอำเภอท่าใหม่ อำเภอนายายอาม ของจังหวัดจันทบุรี
ทิศตะวันตก       ติดต่อกับเขตอำเภอสัตหีบ อำเภอบางละมุง ของจังหวัดชลบุรี

สภาพภูมิประเทศ
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบชายฝั่งที่เกิดจากการทับถมของตะกอนบริเวณแอ่งลุ่มน้ำระยอง และที่ลาดสลับเนินเขาและภูเขา มีลักษณะเป็นลอนลูกคลื่นสูงต่ำสลับกันไป โดยมีพื้นที่ ทิวเขาแนว คือ ทิวเขาชะเมาทาง ทิศตะวันออก ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 1,035 เมตร และทิวเขาที่อยู่ประมาณกึ่งกลางของตัวจังหวัดเป็นแนวยาวจากอำเภอเมืองระยองขึ้นไปทางเหนือจนสุดเขตจังหวัด มีแม่น้ำสายสั้นๆ ซึ่งเกิดจากเทือกเขาจันทบุรีและเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่อ่าวไทย แม่น้ำที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำบางประกง แม่น้ำจันทบุรี แม่น้ำระยอง เป็นต้น ลักษณะชายฝั่งทะเลมีหาดทรายสวยงามและมีเกาะใหญ่น้อยเรียงรายเลียบตามแนวชายฝั่งนับเป็นทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ
ลักษณะภูมิอากาศ
จังหวัดระยองมีลักษณะภูมิอากาศ แบบมรสุมเขตร้อน ลมทะเลพัดผ่านตลอดปี อากาศอบอุ่นไม่ร้อนจัด บริเวณชายฝั่งทะเลเย็นสบาย ในฤดูฝนจะมีฝนตกชุกระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปี สามารถเก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำเพียงพอสำหรับการใช้อุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมได้ตลอดทั้งปี

                                                                               
 การปกครองและประชากร
แบ่งเขตการปกครองเป็น 8 อำเภอ โดยประกอบด้วย 54 ตำบล 439 หมู่บ้าน 80 ชุมชน ส่วนด้านการปกครองท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง เทศบาลตำบล 24 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 40 แห่ง ประชากรของจังหวัดระยอง ณ ธันวาคม  2553  มีทั้งสิ้น 626,403 คน เป็นชาย 309,014 คน คิดเป็นร้อยละ 49.33 เป็นหญิง 317,388 คน คิดเป็นร้อยละ 50.67 ของประชากรทั้งหมด อำเภอที่มีประชากรมากที่สุด คือ อำเภอเมือง มีจำนวน 245,921  คน อำเภอที่มีประชากรน้อยที่สุด คือ อำเภอเขาชะเมา มีจำนวน 23,324 คน จำนวนครัวเรือนทั้งจังหวัดรวม 323,056 ครัวเรือน อำเภอเมืองระยองมีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุด คือ 486.03 คนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร รองลงมาคือ อำเภอบ้านฉาง 261.91 คนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร อำเภอที่มีประชากรหนาแน่นน้อยที่สุด คืออำเภอวังจันทร์ 64.67 คนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร จากการคาดการณ์ว่าประชากรของจังหวัดระยองจะเพิ่มเป็น 638,017 คนในปี 2560 แต่ในสภาพความเป็นจริง จังหวัดระยองมีประชากรมากกว่าตัวเลขในทะเบียนราษฎร์ไม่ต่ำกว่า 300,000 คน ทั้งนี้เกิดจากการอพยพเข้ามาในแรงงานภาคอุตสาหกรรมและการบริการ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
                                          การนับถือศาสนา
ประชากรที่นครระยองส่วนใหญ่เป็นชาวชองที่สืบเชื้อสายจากเขมรผสมกับจีนที่เหลือเป็นชาวจีนและชาวระยอง แต่ชาวชองบางส่วนผสมกับจีนอยู่ที่อำเภอแกลง ชาวระยองส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นอกจากนี้ยังมีผู้นับถือศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และลัทธิเต๋าส่วนมากเป็นชาวจีน
                                          สภาพเศรษฐกิจ
 ระยองเป็นจังหวัดที่มีสภาพทางเศรษฐกิจดีจังหวัดหนึ่ง จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดปี 2547 มีมูลค่า370,104 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการผลิตด้านอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปิโตรเลียม  และปิโตรเคมี มีมูลค่าผลิตภัณฑ์เฉลี่ยต่อหัวเท่ากับ 719,718 บาท / คน / ปี เป็นลำดับที่ 1 ของประเทศ

         โครงสร้างเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง (ปี พ.ศ. 2547) สาขาการผลิตนอกภาคเกษตรกรรมมีมูลค่ารวมสูงถึง 368,888  ล้านบาท โดยการผลิตสาขาอุตสาหกรรมมีมูลค่าสูงสุดคือ 196,280 ล้านบาท 
สาขาการทำเหมืองแร่และเหมืองหินมีมูลค่า 114,919 ล้านบาท เป็นต้น ในขณะที่การผลิตภาคเกษตรกรรม (สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์และการป่าไม้ , สาขาการประมง ) มีมูลค่ารวมเพียง 10,216 ล้านบาท
สาขาการผลิตที่สำคัญ
 1.  เกษตรกรรม
        จังหวัดระยองมีพื้นที่เกษตรกรรม 1,535,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ  69.14 ของพื้นที่จังหวัด ครัวเรือนเกษตรกรจำนวน 41,526 ครัวเรือน โดยมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้
 2.  การประมงและการปศุสัตว์
 2.1 การประมง 
        จังหวัดระยองมีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 100 กิโลเมตรเศษ การประกอบอาชีพประมงน้ำเค็มจึงเป็นอาชีพที่สำคัญ รวมทั้งการทำประมงน้ำจืดและน้ำกร่อยก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน เนื้อที่ทำการประมงทะเลประมาณ 6,225,000 ไร่ เนื้อที่ทำการประมงน้ำจืด (ห้วย หนอง คลอง บึง) จำนวน 179,705 ไร่ มีเรือประมง 616 ลำ สมาคมประมง 5 สมาคม กลุ่มเกษตรกรทำการประมง 3 กลุ่ม และสหกรณ์ 
ท่าเรือประมง 53 ท่า

 2.2  การปศุสัตว์
        เกษตรกรในจังหวัดมีการเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้าในภาพรวมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไก่และเป็ด อันเป็นผลเนื่องมาจากราคาเป็นสิ่งจูงใจและการได้รับการส่งเสริมเงินกู้จากหน่วยงานภาครัฐ  อาทิ เงินกองทุนหมู่บ้าน เงินกู้ช่วยเหลืออื่นๆ 

 3.  การอุตสาหกรรม
       นับจากปี 2524 ที่รัฐบาลได้ดำเนินการตามโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ซึ่งจังหวัดระยองได้รับการกำหนดบทบาทให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก และถูกกำหนดแนวทางการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ เป็นศูนย์บริการมาตรฐานการศึกษาและวิจัยด้านเทคโนโลยี และกำหนดให้ชายฝั่งทะเลตะวันออกเป็นประตูทางออกให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายต่างประเทศไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไว้อย่างสมบูรณ์ และกำหนดพื้นที่ บริเวณมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม เป็นเมือง อุตสาหกรรมใหม่ของประเทศ เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมที่สำคัญคือ โรงแยกก๊าซธรรมชาติกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี จังหวัดระยองจึงเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง ในส่วนของการลงทุนด้านอุตสาหกรรม  นอกจากนี้จังหวัดระยองยังได้รับการกำหนดเขตการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้อยู่ในพื้นที่เขต 2 นับตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2543 แต่ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรมได้รับการส่งเสริมการลงทุนยังถือเป็นเขตส่งเสริมการลงทุนเขต 3 จนถึงปี 2547 จึงส่งผลให้จังหวัดระยองเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว
        จากการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นผลให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นต้นต่อเนื่องเกิดขึ้น ได้เกิดนิคมอุตสาหกรรมทั้งที่ดำเนินการโดยการนิคมอุตสาหกรรม และนิคมอุตสาหกรรมที่ร่วมดำเนินการกับเอกชน เขตประกอบการอุตสาหกรรมชุมชนอุตสาหกรรม หรือสวนอุตสาหกรรม ดังนี้
 นิคมอุตสาหกรรม จำนวน  6  แห่ง  ได้แก่
  (1)  นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 10,000 ไร่
  (2)  นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก 2,430 ไร่
  (3)  นิคมอุตสาหกรรมผาแดง 516 ไร่
  (4)  นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด 2,062 ไร่
  (5)  นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ 4,700 ไร่
  (6)  นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย 2,500 ไร่
 เขตประกอบการอุตสาหกรรม  จำนวน  4  แห่ง  ได้แก่
  (1)  เขตประกอบการอุตสาหกรรม สยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค 1,341 ไร่
  (2)  เขตประกอบการอุตสาหกรรม  TPI  4,335  ไร่
  (3)  เขตประกอบการอุตสาหกรรม  จี.เค.แลนด์ 882 ไร่
  (4)  เขตประกอบการอุตสาหกรรม  บริษัท ระยองที่ดินอุตสาหกรรมจำกัด 3,427 ไร่
 ชุมชนอุตสาหกรรม  จำนวน  5  แห่ง  ได้แก่
  (1)  นิคมอุตสาหกรรมนครินทร์อินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด 1,497 ไร่
  (2)  ชุมชนอุตสาหกรรม เอส เอส พี พร็อพเพอร์ตี้  1,246  ไร่
  (3)  ชุมชนอุตสาหกรรม บริษัท ทุนเท็กซ์ อินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด  1,497 ไร่
  (4)  ชุมชนอุตสาหกรรม ไอ.พี.ที 390 ไร่
  (5)  ชุมชนอุตสาหกรรมโรจนะ 2,200 ไร่ 
 สวนอุตสาหกรรม  จำนวน  2  แห่ง  ได้แก่
  (1)  สวนอุตสาหกรรมบริษัทระยอง (Rayong Industrial Park) 1,500 ไร่
  (2)  สวนอุตสาหกรรมเครือเจริญโภคภัณฑ์
 จำนวนโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม  2548  มีอยู่ทั้งสิ้น 1,663 โรงงาน เงินลงทุน 731,577.46 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงาน 121,568 คน  
 

การส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
        จากการที่จังหวัดระยองถูกจัดอยู่ในพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนเขต 2 แต่ภายในพื้นที่อุตสาหกรรมและเขตประกอบการยังถือเป็นเขตส่งเสริมการลงทุนเขต 3 ถึงปี 2547 จึงได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด มีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่เดือนตุลาคม  2542  ถึงเดือนมิถุนายน 2546 รวม 386 โครงการ เงินลงทุน 229,913.40 ล้านบาท มีการจ้างงาน 50,147 คน
 4.    การพาณิชย์
        จังหวัดระยองเป็นศูนย์กลางระหว่างจังหวัดในภาคตะวันออก ที่มีแผนการพัฒนาจังหวัดตามโครงการ Eastern  Seaboard  นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงมีบุคคลต่างๆ
เข้ามาทำงานและท่องเที่ยวในจังหวัดเป็นจำนวนมากมายทำให้มีการประกอบธุรกิจการค้าอย่างกว้างขวาง ทั้งการค้าปลีกและการค้าส่ง
        การค้าส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในตลาดสดเทศบาล ตลาดศูนย์การค้าระยอง ตลาดเย็นหน้าโรงแรมสตาร์พลาซ่า ตลาดเช้าเย็นหน้าวัดลุ่มมหาชัยชุมพล และตลาดสดหมอสาโรจน์ที่เป็นตลาดสดในตอนเช้า และจำหน่ายอาหารในตอนเย็น ซึ่งอยู่ใกล้แหล่งพักของคนทำงานในเมืองทำให้สะดวกในการซื้อขาย นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ อาทิ เช่น ห้างแม็คโคร  ห้างโลตัส ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ห้างสรรพสินค้าแหลมทอง รวมทั้งตลาดชุมชนประจำอำเภอและตำบล
        การค้าปลีก การประกอบธุรกิจการค้าปลีกมีอยู่ทั่วไปในย่านชุมชน โดยพ่อค้าคนกลางจะนำสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจำหน่ายสินค้าโดยทั่วไป นอกจากนี้ยังมีพ่อค้านำสินค้าเกษตรกรรมท้องถิ่นมาจำหน่ายในตลาดตัวเมืองระยองหรือส่งเข้าตลาดกรุงเทพฯ
พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด  ได้แก่
 (1) ยางพารา เป็นพืชที่เพาะปลูกมากที่สุดในจังหวัด  เมื่อเปรียบเทียบกับพืชเศรษฐกิจสำคัญ         ชนิดอื่นๆ เนื่องจากยางพาราเป็นพืชที่ปลูกง่ายไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามาก อีกทั้งสภาพทางภูมิประเทศของจังหวัดเอื้ออำนวยและความต้องการของตลาดยังคงมีปริมาณสูง โดยราคาเฉลี่ยในปี  2547 ยางแผ่นดิบคุณภาพ (คละ) 40-50 บาท/กก.
 (2) มันสำปะหลัง เกษตรกรนิยมปลูกมันกันมากที่สุดในพื้นที่อำเภอแกลง อำเภอวังจันทร์ อำเภอเมืองตามลำดับ โดยนิยมปลูกพันธ์ระยอง 5, เกษตรศาสตร์ 50,ระยอง 90 ,ระยอง 60 และระยอง 3 ตามลำดับโดยในปี 2547 ราคาเฉลี่ยต่อหัวมันสด ณ โรงแป้งมัน (25%) 1.20-1.33 บาท/กก.
 (3) สับปะรด จังหวัดระยองเป็นจังหวัดที่ปลูกสับปะรดมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือประมาณร้อยละ 20 ของผลผลิตทั้งประเทศ โดยผลิตส่วนใหญ่จะส่งขายให้โรงงานอุตสาหกรรมเพื่อแปรรูปเป็น สับปะรดกระป๋อง และน้ำสับปะรด และบางส่วนนำไปจำหน่ายเป็น ผลสดตามแผงจำหน่ายผลไม้ โดยในปี 2547 ราคาขายส่งหน้าโรงงานเฉลี่ย (ผลใหญ่) 4.70-5.30 บาท/กก. (ผลเล็ก) 2.10-2.30 บาท/กก. และน้ำยางดิบ  35 – 45 บาท/กก.
 (4) ทุเรียน  การทำสวนทุเรียนเป็นอาชีพที่เกษตรกรในจังหวัดระยองยึดเป็นอาชีพมาช้านาน  เนื่องจากประสบการณ์และ ความรู้ที่สะสมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ประกอบกับพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสม โดยมีพื้นที่ปลูกมากในพื้นที่อำเภอแกลง อำเภอวังจันทร์ อำเภอเมือง กิ่งอำเภอเขาชะเมา อำเภอบ้านค่าย ตามลำดับ แนวโน้มการปลูกทุเรียนจะมีพื้นที่อำเภอปลูกลดลง เนื่องจากในช่วง 3 ปีทีผ่านมาราคาผลผลิตทุเรียนมีราคาตกต่ำ จึงทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชชนิดที่อื่นทดแทน เช่น ยางพารา เป็นต้น โดยในปี  2547 ราคาผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ขายปลีก 15-25 บาท/กก. ขายส่ง 13-15 บาท/กก. พันธุ์ชะนี ขายปลีก 10-15 บาท/กก. ขายส่ง 7-10 บาท/กก.

 (5) เงาะ การทำสวนเงาะ เกษตรกรนิยมปลูกในพื้นที่เคียงคู่กับการปลูกทุเรียน โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่ เงาะพันธุ์โรงเรียน รองลงมาคือ เงาะพันธุ์สีชมพู ในปี 2547 ราคาเฉลี่ยพันธุ์สีชมพู  ขายปลีก 7-15 บาท/กก. ขายส่ง 5-7 บาท/กก.พันธุ์โรงเรียน ขายปลีก 15-20  บาท/กก. ขายส่ง 9-10 บาท/กก.

 (6) มังคุด เป็นผลไม้ยืนต้นที่มีอายุยืนเป็นพืชเมืองร้อน สามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด               ผลมังคุดมีรูปทรงและสีสันสวยงาม รสชาติดีมีราคา และเป็นที่นิยมบริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศจึงได้รับฉายาว่าเป็น “THE  QUEEN OF FRUIT”  โดยมีแนวโน้มการเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ผลผลิตมังคุดออกสู่ตลาดเพื่อการบริโภคสด ส่งไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยราคาผลผลิตในปี 2547 ราคาขายส่งเฉลี่ย 12-15 บาท/กก. ขายปลีกเฉลี่ย 20-25 บาท/กก.
สินค้าอาหารทะเล
       เนื่องจากจังหวัดระยองมีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอบ้านฉาง  และอำเภอแกลง จึงมีประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลประกอบอาชีพการประมง ซึ่งรวมไปถึงการประมงน้ำกร่อยและการประมงน้ำจืด ในเขตพื้นที่ไม่ติดทะเลมีการเพาะเลี้ยง        สัตว์น้ำชายฝั่ง เช่น การเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ตะพาบน้ำ การผลิตและจำหน่ายมีการจำหน่ายเพื่อการบริโภคภายในจังหวัด บางส่วนจัดส่งเข้าโรงงานห้องเย็นเพื่อส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ ผลผลิตจากการประมงส่วนใหญ่จะทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเล เช่น น้ำปลา กะปิ ปลาแห้ง ปลาเค็ม ปลาหมึกแห้ง ปลาหมึกอบกรอบ ปลาหมึกปรุงรส กุ้งแห้ง ฯลฯ สำหรับน้ำปลาจัดได้ว่าเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระยอง 
       โดยมีโรงานผลิตน้ำปลาประมาณ 26 แห่ง ได้รับ อย. แล้วทุกแห่ง และได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม 
โดยจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแม่บ้านผลิตน้ำปลาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค ในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ดังคำขวัญของจังหวัดที่ว่า ผลไม้รสล้ำ อุตสาหกรรมก้าวหน้า น้ำปลารสเด็ด เกาะเสม็ดสวยหรู สุนทรภู่กวีเอก” 
 จากการที่จังหวัดระยองเป็นศูนย์กลางระหว่างภาคตะวันออกและจากการพัฒนาโครงการ Easterm  Seaboard  ส่งผลให้เป็นศูนย์กลางในการส่งออก โดยมีท่าเรือน้ำลึกที่นิคมอุสาหกรรมมาบตาพุด จัดเป็นท่าเรือที่สำคัญ เปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการทั้งในอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยในปี 2547 สินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ เป็นจำนวนพวกน้ำมันดิบและน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งนำเข้าจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่  ส่วนสินค้าที่ส่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปรรูป จากน้ำมันดิบ เช่น  น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และเม็ดพลาสติก เป็นต้น โดยส่งไปประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ
 5.  การท่องเที่ยวและการบริการ
        ระยองเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมทางการท่องเที่ยวสูง มีแหล่งทรัพยากรท่องเที่ยว
ที่สมบูรณ์ มีลักษณะหลากหลายทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อุทยานแห่งชาติ ภูเขา น้ำตก ชายหาด ทะเลที่ยาวไกล และหมู่เกาะที่สวยงามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเกาะเสม็ดที่มีหาดทรายขาวสวยงาม เลื่องชื่อไปทั่วโลก มีสวนผลไม้ให้เยี่ยมชมและชิม

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ23 ตุลาคม 2560 เวลา 06:04

    สวัสดี !

    คุณต้องการบริการสินเชื่อที่ถูกต้องและรวดเร็ว?

    สมัครตอนนี้และขอรับเงินด่วน!

    * ตำแหน่งระหว่าง 5000 ถึง 50 ล้าน
    * เลือกระหว่าง 1 ถึง 30 ปีในการชำระคืน
    * เงื่อนไขการกู้ยืมเงินแบบยืดหยุ่น

    ตอบกลับเรามีดังต่อไปนี้: อีเมล: thompson.loanservice@gmail.com

    ทั้งหมดนี้และอื่น ๆ โปรดติดต่อเรา

    ชื่อเต็ม: ..........
    หมายเลขโทรศัพท์:.......
    รายได้ต่อเดือน: .............
    ประเทศ ...............................
    วัตถุประสงค์สินเชื่อ ...........
    จำนวนเงินที่ต้องการ .................
    สถานะเงินกู้ ............
    ระยะเวลา: ...........................

    ติดต่อเราทางอีเมล: thompson.loanservice@gmail.com
    การจัดการ
    ติดต่อสินเชื่อ Speedy ตอนนี้ !!!

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ23 ตุลาคม 2560 เวลา 06:06

    สวัสดี !

    คุณต้องการบริการสินเชื่อที่ถูกต้องและรวดเร็ว?

    สมัครตอนนี้และขอรับเงินด่วน!

    * ตำแหน่งระหว่าง 5000 ถึง 50 ล้าน
    * เลือกระหว่าง 1 ถึง 30 ปีในการชำระคืน
    * เงื่อนไขการกู้ยืมเงินแบบยืดหยุ่น

    ตอบกลับเรามีดังต่อไปนี้: อีเมล: thompson.loanservice@gmail.com

    ทั้งหมดนี้และอื่น ๆ โปรดติดต่อเรา

    ชื่อเต็ม: ..........
    หมายเลขโทรศัพท์:.......
    รายได้ต่อเดือน: .............
    ประเทศ ...............................
    วัตถุประสงค์สินเชื่อ ...........
    จำนวนเงินที่ต้องการ .................
    สถานะเงินกู้ ............
    ระยะเวลา: ...........................

    ติดต่อเราทางอีเมล: thompson.loanservice@gmail.com
    การจัดการ
    ติดต่อสินเชื่อ Speedy ตอนนี้ !!!

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ23 ตุลาคม 2560 เวลา 06:31


    Hello !

    Do you Need legitimate and quick loan service?

    Apply now and get your money urgently!

    * Position between 5000 to 50 million
    * Choose between 1 to 30 years to repay.
    * Flexible loan terms.

    Contact us by email: thompson.loanservice@gmail.com
    Management.
    Contact the credit Speedy now !!!

    ตอบลบ